เข็มอุณากรรณ หรือ พุดชมพู ชื่อนี้เคยได้ยินกันมานาน เจ้าต้นพุดที่ออกดอกสีชมพูเหมือนดอกเข็ม เหมาะสำหรับปลูกแต่งสวนหน้าบ้าน เพิ่มสีสันความโดดเด่นท่ามกลางแมกไม้สีเขียว ใครชอบสีชมพูบอกเลยว่าต้องมีติดบ้าน แต่จะปลูกอย่างไรให้ออกดอกสวย ต้องมีเคล็ดลับกันสักหน่อย ถ้าพร้อมแล้วเราไปทำความรู้จักกับเขาให้มากยิ่งขึ้นกันเลยดีกว่า!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
พุดชมพู ดอกพุดสีชมพูสวยสะพรั่ง สีหวาน มีติดบ้านแล้วดี!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Kopsia fruticosa A. DC.
ชื่อวงศ์ : Apocynaceae (วงศ์ตีนเป็ด วงศ์ไม้ลั่นทม หรือ วงศ์โมก)
ชื่อสามัญ : Pink Kopsia, Shrub Vinca, Kopsia Merah และ Pink Gardenia
ชื่ออื่นในภาษาไทย : เข็มอุณากรรณ, อุณากรรณ และ ตึ่งตาใส (ภาคเหนือ)
“เข็มอุณากรรณ” คือชื่อใหม่ของเจ้า “พุดชมพู” ที่เราเรียกกันมาอย่างยาวนาน เจ้าต้นนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย พม่า แม้กระทั่งประเทศไทย โดยส่วนใหญ่มักพบในป่าดิบชื้นบนภูเขาหินปูนที่ความสูงระดับ 500 เมตร โดยพบมากที่สุดทางภาคใต้ แต่ปลูกง่ายทุกภูมิภาค ดอกไม้สีชมพูเริ่มผลิให้เชยชมช่วงฤดูฝนแต่งแต้มสีสันอันเย้ายวนใจ มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วรู้สึกดีอย่างแน่นอน
ความเชื่อ
โดยปกติแล้ว ต้นพุดมีความหมายที่ดีและมาพร้อมความเชื่อว่าเป็นมงคล เนื่องจากกลิ่นหอมและมีสีขาว สามารถนำไปถวายพระขอพรให้ชีวิตประสบพบเจอแต่สิ่งที่ดีได้ แต่สำหรับพุดชมพูเขาช่วยเสริมดวงในด้านความรัก เมตตามหานิยม คนเอ็นดู ผู้ใหญ่คอยให้ความช่วยเหลืออุปถัมภ์ค้ำจุน มีไว้แล้วก็อย่าลืมทำตัวให้น่ารักกันด้วยนะ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : พุดชมพูจัดอยู่ในประเภทไม้ยืนต้น ไม้พุ่มขนาดเล็ก อาจมีความสูง 1-10 เมตรโดยประมาณ มีการแตกกิ่งก้านออกรอบลำต้นเป็นทรงพุ่มกว้างกินอาณาบริเวณ 1-2 เมตร ผิวเปลือกแก่จัดสีเทา กิ่งหรือลำต้นอ่อนปกคลุมด้วยขนสีขาวนุ่มนิ่ม พบเนื้อไม้ด้านในและยางสีขาวข้น
ใบ : เจ้าต้นนี้เป็นพืชใบเดี่ยว ออกเรียงคู่ตรงข้ามกันตามกิ่งก้านและปลายยอด รูปใบหอก โคนเป็นลิ่ม ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบบนสีเขียวเข้มเป็นมัน เส้นใบชัดเจน ล้มลงเล็กน้อย ขนาดความยาว 7.5-18 เซนติเมตร กว้าง 3.3-8 เซนติเมตรโดยประมาณ
ดอก : ดอกพุดสีชมพู จะออกเป็นช่อดอกรวบแบบกระจุกตามซอกใบและปลายกิ่ง ในหนึ่งช่อความยาว 7-12 เซนติเมตรโดยประมาณ เต็มไปด้วยดอกย่อยสีชมพูทั้งดอกตูมและบาน ดอกย่อยบานสะพรั่ง 5 กลีบมีลักษณะรูปไข่กลับหัวโดยปลายกลีบแยกออกจากกัน ขอบกลีบเรียบ ไร้ร่องรอยหยัก โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว 4 เซนติเมตร พุดชมพู ออกดอกในช่วงพฤษภาคม-กันยายน หรือฤดูฝนเป็นหลัก
ผล : ออกแบบฝักสีดำอมแดง พบจะงอยที่บริเวณปลายฝัก มี 1 เมล็ดด้านใน
ประโยชน์
ถ้าถามว่าพุดชมพูหอมไหม ตอบเลยว่าไม่ เนื่องจากเขาคือดอกไม้ไร้กลิ่น แต่กลับดึงดูดใจด้วยหน้าตา เหมาะสำหรับปลูกเป็นต้นไม้หน้าบ้าน ในสวนเชิงไม้ประดับเสียมากกว่า เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงไม่ได้หวังประโยชน์ด้านอื่นกันสักเท่าไร
การขยายพันธุ์
พุดชมพู สามารถขยายพันธุ์ได้หลากหลายวิธีมากตั้งแต่ตอนกิ่ง เพาะเมล็ด และนิยมมากที่สุดก็จะเป็นวิธีปักชำกิ่งพุดนี่ล่ะ ขั้นตอนง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับมือใหม่หัดปลูกต้นไม้ ถ้าใครอยากลองเพิ่มจำนวนประชากรต้นไม้แบบมือโปรฯ ทำตามนี้ได้เลย
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
– พุดต้นแม่พันธุ์
– ดินปลูกหรือดินร่วน
– อินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก
– กรรไกรตัดกิ่ง
– มีดสำหรับคว้านและขูด
– ฮอร์โมนเร่งราก B1 ถ้าไม่มี สามารถใช้เครื่องดื่มชูกำลังผสมน้ำเปล่าแทนก็ได้
– น้ำเปล่า
– ขวดทึบแสง
– สำลีก้อน
ขั้นตอนการปักชำกิ่ง
1.เลือกกิ่งพุดที่มีขนาดประมาณนิ้วก้อยของเรา โดยไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป
2.ใช้กรรไกรตัดกิ่งออกมา ตัดใบและส่วนยอดออกให้เหลือประมาณ 3-4 ใบต่อกิ่งก็พอ
3.ใช้มีดกดไปที่เปลือกไม้เป็นวงกลมรอบกิ่ง แล้วนำเปลือกออก พร้อมขูดเยื่อไม้ทิ้งให้หมด
4.แช่กิ่งโดยเฉพาะส่วนที่คว้านและขูดเนื้อเยื่อออก ทิ้งไว้ในน้ำยาเร่งรากประมาณ 1 ชั่วโมง
5.จากนั้นค่อยนำไปปักชำไว้ในขวดที่มีน้ำเปล่า อย่าลืมใช้สำลีอุดปากขวดเอาไว้เพื่อลดการคายน้ำ
6.รอจนกว่ารากจะงอกออกมาค่อยนำไปเพาะชำลงวัสดุปลูกที่มีส่วนผสมของดินร่วนและอินทรียวัตถุในปริมาณเท่า ๆ กัน
7วางไว้ในพื้นที่ร่มรำไรและรดน้ำทุกวัน
การปลูก/ดูแล
พุดชมพู ชอบแดดเต็มวันหรือถูกแดดสักครึ่งวันก็ยังดี เน้นปลูกในพื้นที่โล่งแจ้งจะออกดอกได้ดี ในดินอินทรียวัตถุสูง มีความโปร่ง ร่วนซุย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเก็บรักษาความชุ่มชื้น แต่ระบายน้ำได้ดี ชอบน้ำปานกลาง ควรรดน้ำไม้ประดับสีชมพูชนิดนี้เพียงวันละ 1 ครั้งก็พอ หากตัดแต่งกิ่งก็จะออกดอกช้าเข้าไปใหญ่
สรุป
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับ “พุดชมพู” ไม้ประดับดอกสวยงาม ต้นใหญ่ ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ทำความรู้จัก เป็นอย่างไรกันบ้างคะ น่าสนใจมากเลยใช่ไหมล่ะ ใครเห็นว่าสวนของตัวเองจืดเกินไป อยากเพิ่มสีสันหวานแหววก็ลองซื้อหาน้องเขามาปลูกได้นะ ดูแลไม่ยากเลย
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net