ต้นยิปโซฟิลล่า เรียกได้ว่าเป็นไม้พุ่มในดวงใจของใครหลายคน เพราะนอกจากจะสวยงามมาก ๆ แล้วยังมีประโยชน์ สามารถนำมาจัดพุ่มได้อีกด้วย แถมความหมายดีเลิศ เหมาะสำหรับให้เป็นของขวัญแก่ใครสักคน แต่ในขณะเดียวกันก็แอบมีพิษเล็กน้อย มีความหลากหลายมากเลยใช่ไหมล่ะ และถ้าหากคุณกำลังตามหาข้อมูลของดอกนี้อยู่ ก็อย่าได้พลาดในสิ่งที่เราตั้งใจนำมาฝากเด็ดขาด!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ต้นยิปโซฟิลล่า หรือ ยิปโซฟิลา ไม้พุ่มกลม น่ารัก ดอกสวย ที่ใครก็อยากปลูก!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gypsophila paniculata
ชื่อวงศ์ : Caryophyllaceae (วงศ์คาร์เนชัน)
ชื่อสามัญ : Baby’s breath หรือ Bristol fairy
ยิปโซฟิลล่า หรือที่เราเรียกกันอย่างคุ้นชินว่า “ต้นยิปโซ” เป็นไม้ล้มลุกที่นิยมปลูกเป็นพุ่มกลมขนาดเล็ก มักแขวนตกแต่งประดับบ้านหรือเป็นต้นไม้แต่งโต๊ะทำงาน ซึ่งเขามีถิ่นกำเนิดมาจากยุโรปกลาง ตะวันออก รวมไปถึงในเอเชียกลางและตะวันตก และบางส่วนของจีน ถ้ามองดูจากภูมิประเทศก็สามารถปลูกในเมืองไทยได้ไม่ยาก ใครอยากปลูกก็แทบไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแล แถมเขายังเป็นต้นไม้ความหมายดีมาก ๆ อีกด้วยนะ
ดอกยิปโซ ความหมาย
ส่วนยอดนิยมใช้งานมากที่สุดนั่นก็คือ ดอก ซึ่งดอกเจ้าต้นยิปโซนั้นช่วยสื่อความหมายถึง รักแรกพบ ความอ่อนหวาน จริงใจ ไร้เดียงสา ความบริสุทธิ์ เหมาะสำหรับมอบให้แก่ใครสักคน เราจึงมักเห็นยิปโซขาวอยู่ในงานแต่งงานบ่อย ๆ เนื่องด้วยเหตุนี้นี่เอง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : ยิปโซ เป็นไม้ดอกอายุหลายปี มีลำต้นสูง 30-90 เซนติเมตรโดยประมาณ บริเวณช่วงลำต้นมีขนอ่อนเกิดขึ้นเล็กน้อย มักปลูกรวมกันเยอะ ๆ จึงดูเหมือนกับว่าเขาเป็นไม้พุ่ม
ใบ : ออกแบบใบเดี่ยวซึ่งมีลักษณะรูปหอก โคนใบมน ปลายใบแหลม
ดอก : ดอกยิปโซ ถือเป็นไฮไลท์ของเจ้าต้นนี้เลยล่ะ ดอกของเขามีหลายสีมาก ทั้งแบบซ้อนและชั้นเดียว อีกทั้งยังมีหลากหลายสีสันส่วนใหญ่ติดไปทางโทนขาว ชมพู อมม่วงเล็กน้อย ออกดอกเป็นช่อแขนงที่บริเวณปลายยอด ขนาดเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มน่ารักมาก
ประโยชน์ของต้นไม้
ส่วนใหญ่แล้วต้นยิปโซ มักถูกใช้ประโยชน์ในด้านของการเป็นต้นไม้แขวนประดับบ้านเสียมากกว่า เนื่องจากนิยมปลูกเลี้ยงลงในกระถาง และหวานเมล็ดให้เขาเกิดขึ้นมาแบบเบียดเสียดกันสักหน่อย ในหนึ่งพุ่มเน้นกระจายหลากหลายสีสันเพื่อเพิ่มมิติก็จะดียิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก รับรองว่าปลูกแล้วคนคนต้องถามอย่างแน่นอนว่านี่คือต้นอะไร
ทำไมยิปโซ ถึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นวัชพืชร้ายแรง?
ในสหรัฐอเมริกา บางมลรัฐถือว่าต้นยิปโซนั้นเป็นวัชพืชร้ายแรงชนิดหนึ่งเนื่องจากเขาเติบโตค่อนข้างรวดเร็วและลุกลามไปคุกคามพืชชนิดอื่นในป่า แต่ไม่ต้องกลัวว่าน้องจะเป็นวัชพืชอันตรายสำหรับประเทศไทยนะคะ เนื่องจากสภาพอากาศบ้านเราไม่ได้เอื้ออำนวยให้น้องเขาเติบโตมากขนาดนั้น
การขยายพันธุ์
ยิปโซ ขยายพันธุ์ง่าย ไม่ยุ่งยากด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะซื้อหาเมล็ดของเขามาจากช่องทางออนไลน์ เป็นหลัก และถ้าหากเพื่อน ๆ กำลังสนใจอยากลองเพาะเมล็ดให้งอกงามและเติบโตด้วยมือของตนเอง เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาแนะนำ
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
– เมล็ดต้นยิปโซ
– พีทมอส
– ถาดปลูก
– กระถาง ฟอกกี้หรือฝักบัวรดน้ำจิ๋ว
– ช้อนพรวนสำหรับย้ายต้นกล้า
ขั้นตอนวิธีการเพาะเมล็ดต้นยิปโซ
1.ให้เรานำพีทมอสไปแช่น้ำทิ้งไว้เป็นเวลา 1 คืน ก่อนนำมาตีหรือขยี้ให้ฟูก่อนบรรจุลงในถาดเพาะ
2.จากนั้นนำเมล็ดยิปโซประมาณ 10 เมล็ดมาโรยลงในถาดเพาะ 1 หลุม โดยไม่ต้องกลบ
3.รดน้ำตามโดยใช้ฟอกกี้หรือฝักบัวรดน้ำจิ๋วให้ชุ่มชื้น
4.วางต้นไม้เอาไว้ในพื้นที่แสงแดดร่มนำไปสักประมาณ 18 วันเขาก็จะเริ่มงอกออกมาให้เราได้เชยชม แต่ต้องรอเวลาให้ต้นโตแข็งแรงสักหน่อยก่อนนำไปปลูกยังพื้นที่ที่เราต้องการ
การปลูกยิปโซ
สำหรับการปลูกต้นยิปโซเป็นเรื่องง่าย ให้เพื่อน ๆ ใช้วัสดุปลูกที่มีส่วนผสมของดินปลูก อินทรียวัตถุ ขุยมะพร้าว และกาบมะพร้าวอย่างละ 1 ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากัน เพื่อสภาพดินอุดมสมบูรณ์ มีความร่วนซุย ในขณะเดียวกันก็ยังกักเก็บความชื้นดี
ใช้ช้อนพรวนย้ายต้นกล้าของยิปโซมาปลูกลงในดินที่เราผสมเอาไว้ได้เลย ทั้งนี้เราจำเป็นจะต้องวางต้นไม้เอาไว้ในพื้นที่ที่แสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนใหญ่ก็มักแขวนกันตามชายคาบ้าน ทำให้เขาโดนแสงแดดในปริมาณที่พอดี
การดูแล
ส่วนการรดน้ำต้นยิปโซนั้นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่ารดน้ำโดยตรงไปที่บริเวณพุ่มอันแสนนุ่มฟู แต่ให้เพื่อน ๆ ลองแหวกกอออกเล็กน้อย แล้วเติมน้ำลงไปที่โคนต้นจะดีกว่า ควรรดน้ำให้ดินของเขาชุ่มชื้นแต่ไม่แฉะจนเกินไป วันละ 1 ครั้งก็เพียงพอ เติมปุ๋ยละลายช้าสูตร 12-25-6 ช่วยบำรุงอีกแรง ออกดอกสวยแน่นอน แต่ถ้ารากของเขาเดินเต็มกระถางแล้ว แนะนำให้ย้ายไปยังกระถางใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ต้นไม้จะอยู่กับเราได้นานมาก
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับต้นยิปโซฟิลล่า ที่เราได้ทำการรวบรวมมาฝากเพื่อน ๆ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เจ้าต้นนี้สวยงาม น่าสนใจ น่ามีติดบ้านมากเลยใช่ไหมล่ะ ใครอยากครอบครองเป็นเจ้าของง่ายนิดเดียว แค่ปลูกเองก็จบ ใคร ๆ ก็ดูแลได้
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net
