ทุกคนทราบหรือไม่ว่า “ต้นพลับพลึง” นั้นเป็นพันธุ์ไม้โบราณอันน่าสนใจ แต่มีสไตล์มินิมิมอลเหมาะสำหรับยุคสมัยใหม่ เรียกว่าไม่เคยตกเทรนด์เลยล่ะเพราะใคร ๆ บ้านไหนก็ปลูก และหากคุณคือคนหนึ่งที่กำลังอินเรื่องการเลี้ยงต้นไม้ และสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้ากอสีเขียวอยู่ ก็อย่าได้รอช้า มาทำความรู้จักกับพลับพลึงให้มากยิ่งขึ้นกันเลยดีกว่า
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ “ต้นพลับพลึง” ไม้ประดับเป็นมงคล มินิมอล ทันสมัย!!
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Crinum Asiaticum L
ภาษาอังกฤษ : Phlabphlung Tree
ชื่อวงศ์ : Amaryllidaceae (วงศ์พลับพลึง)
ชื่อไทย / ท้องถิ่น : พลับพลึงขาว, พลับพลึงดอกขาว, ลิลัว (ภาคเหนือ), ว่านชน (อีสาน), วิรงรอง (ชวา)
พลับพลึง จัดเป็นไม้ล้มลุก กอเล็กมีอายุหลายปี ว่ากันว่าถิ่นกำเนิดของเจ้าต้นนี้อยู่ทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะชายทะเลอย่างหมู่เกาะโปลินีเซีย รวมไปถึงประเทศไทยของเราด้วย ในปัจจุบันพลับพลึงนั้นมีหลากหลายสายพันธุ์มาก และเราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักพันธุ์น่าสนใจอย่างแน่นอน
ความเชื่อ
ในสมัยก่อนคนไทยแถบภูเขานั้นมีความเชื่อว่า ต้นพลับพลึงคือตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างฟ้ากับดิน หากออกดอกมาก ฝนจะตกมาก หากออกดอกน้อยหรือไม่มีดอกเลยฝนก็จะแล้ง ส่วนทางฝั่งเมืองลาวเชื่อว่าต้นไม้นี้ช่วยขับไล่ศัตรู ภูตผีปีศาจได้ บ้านไหนมีสิ่งอัปมงคล ให้นำพลับพลึงไปปลูกเอาไว้ เพื่อขับไล่สิ่งเลวร้ายออกไปจากบ้าน หรือหากนำใบมาซอยใส่ขันน้ำมนต์เพื่ออาบ จะช่วยขับไล่ผีสางได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีความเชื่อพื้นฐานว่า เขาคือไม้มงคลจะช่วยเสริมดวงให้ชีวิตดี เจริญรุ่งเรืองอีกด้วย
ประโยชน์
นอกจากเป็นต้นไม้เสริมดวงประดับบ้านแล้ว พลับพลึงก็ยังมาพร้อมประโยชน์มากมาย สามารถนำมาจัดแจกันแทนดอกลิลลี่ได้ มีกลิ่นหอมดี และเขายังมีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
– ราก นำมาตำเพื่อพอกแผล รักษาพิษจากยางน่องได้
– ใบ ใบพลับพลึงมีรสเอียน หากนำไปต้มดื่มจะช่วยทำให้อาเจียน ต้านไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคโปลิโอ, นำไปย่างไฟ ประคบเพื่อบรรเทาอาการปวดข้อ, ตำห่อผ้า นึ่งให้ร้อนประคบเส้นตึง, รักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ
– เมล็ด เป็นยาระบาย ยาบำรุง ช่วยขับเลือดประจำเดือน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น : พลับพลึงมีลำต้นใต้ดินเป็นหัวกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12-15 เซนติเมตร
ใบ : ใบของเขามีสีเขียว ออกรอบต้น เป็นกาบใบประกอบลำต้นสีขาวอวบ ใบเรียว ยาว แคบ เป็นคลื่น ปลายเรียวแหลม ส่วนขนาดความกว้างยาวนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์
ดอก : ลักษณะของดอกพลับพลึงนั้น จะออกเป็นช่อใหญ่ มีดอกย่อยประมาณ 15-40 ดอก แต่อาจไม่บานพร้อมกัน ก้านดอกจะชูขึ้นจากลำต้น เมื่อดอกบานเต็มที่กลีบก็จะโค้งลงด้านล่างเข้าหาก้านดอก มีเกสรเพศผู้ 6 ก้าน เกสรเพศเมียสีแดง
ผล : ผลพลับพลึงนั้นมีลักษณะกลม สีเขียวอ่อน
สายพันธุ์
พลับพลึง สายพันธุ์ของเขาค่อนข้างเยอะและแตกต่างกันออกไป วันนี้เราจะมายกตัวอย่างพันธุ์ยอดนิยมดังต่อไปนี้
– พลับพลึงแดง สำหรับพันธุ์นี้จะมีต้นค่อนข้างใหญ่ประมาณ 3-4 ฟุต ใบอวบ รูปหอก ออกดอกช่อใหญ่ ดอกมีสีแดงอมชมพู และออกดอกปีละครั้ง
– พลับพลึงใหญ่ พันธุ์นี้จะโดดเด่นที่กอของเขามีขนาดใหญ่กว่าต้นพลับพลึงทั่วไป จะออกดอกสีม่วงอ่อนประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม
– พลับพลึงเตือน ดอกสีขาวสะอาดสวยงาม
– พลับพลึงด่าง พันธุ์นี้ไฮไลท์เด็ดของเขาจะอยู่ที่ใบเป็นหลัก ใบของเขามีสีเขียว แถบขาวด่างสวยงาม ออกดอกขาวสวยที่กลางกอ
การขยายพันธุ์
พลับพลึง ขยายพันธุ์ได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่การแยกหน่อไปจนถึงการเพาะเมล็ด ซึ่งการแยกหน่อของเขาไม่ต่างจากพืชตระกูลใกล้เคียงกันมากนัก เพียงแค่เรานำมีดตัดแยกหน่อขนาดเล็กที่โคนต้นของเขาออกมาก่อน จากนั้นเตรียมกระถางเพาะ รองก้นด้วยขุยมะพร้าวแช่น้ำ นำต้นลงไปและเติมดินได้ทุกรูปแบบ หลังจากนั้นก็รดน้ำให้พอสมควรเพื่อให้เขาติดราก
การปลูก / ดูแล
การปลูกพลับพลึง ให้เติบโตไว ต้องปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร หากโดนแดดมากจนเกินไปต้นไม้อาจช้ำไปจนถึงขั้นตายเลยก็เป็นได้ ส่วนเรื่องดินเขาไม่เรื่องมาก สามารถปลุกกับดินได้หลากหลายรูปแบบ แต่หากเป็นดินร่วนซุยก็จะดีมาก ถึงแม้ว่าเขาจะชื่นชอบน้ำปานกลาง แต่การรดน้ำก็ควรทำวันละ 2 ครั้งและห้ามให้ดินแฉะจนเกินไป ในระหว่างทางจะให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยเคมีด้วยก็ได้
ราคา
พลับพลึงนั้นมีมาแต่โบราณ และมีจำนวนมากจึงราคาไม่แพงมากมายอะไร แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของเขาด้วย บางพันธุ์อาจมีราคาอยู่มีต้นละ 30 บาท ส่วนบางต้นอาจมีราคาถึง 2,000 บาทเลยทีเดียว ถ้าจะเป็นผู้ขายก็คงต้องมีใจรักอย่างมาก แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ อยากซื้อแนะนำไปเดินชมตามร้านขายต้นไม้ หรือสั่งออนไลน์ถือเป็นการเสี่ยงดวงหน่อย ๆ
และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ต้นพลับพลึง” ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จัก ว่าเขามีความน่าสนใจ มีประโยชน์ทางด้านการใช้งานและความเชื่ออย่างไร รวมถึงการปลูก การดูแลง่ายหรือไม่ เชื่อว่าก็น่าจะได้ทราบกันไปแล้ว สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าเกร็ดความรู้ทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้ได้ที่ Plantlover.net