หากกล่าวถึงนีออน เพื่อน ๆ ก็น่าจะนึกถึงแสงสว่าง หรือไฟเรืองแสงอะไรสักอย่าง แต่สำหรับ “ต้นนีออน” เขาไม่ได้เป็นพืชเรืองแสงได้อย่างใจคิด ส่วนทำไมจึงใช้ชื่อนี้ วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาไขคำตอบ รวมถึงการเจาะลึกในรายละเอียดเกี่ยวกับเจ้าต้นไม้ต้นนี้ ไม้เมืองร้อนออกดอกสีม่วงสวยตลอดทั้งปี ปลูกอย่างไรให้ปัง มาดูกัน!!
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับ “ต้นนีออน” ต้นไม้ออกดอกทั้งปี มีติดบ้านไว้ ใคร ๆ ก็ทัก!!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Leucophyllum frutescens (Berl.) I.M.
วงศ์ : Scrophulariaceae
ชื่อภาษาอังกฤษ : Texas Sage, Purple Sage, White sage, Texas Ranger Silverleaf, Cenizo และ Leucophyllum frutescens
ชื่อไทย : นีออน, ใบเสจเท็กซัส
อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า “นีออน” ที่เราหมายถึงคือต้นไม้พุ่มมีดอกชนิดหนึ่ง เพื่อน ๆ ทราบหรือไม่ว่า ชื่อนี้เกิดจากสีของใบไม้ซึ่งมีความสว่าง มองแล้วเจิดจ้าราวกับแสงนีออน เขาจึงถูกขนานนามว่า “ต้นนีออน” เขามีถิ่นกำเนิดมาจากแถบตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแถบทะเลทราย ดูจากแหล่งกำเนิดและสถานที่อยู่อาศัยแล้ว คงพอจะเดากันได้ว่าเขาเป็นพันธุ์ไม้ที่ทนความร้อนได้ค่อนข้างดี เติบโตได้ตามธรรมชาติ เหมาะแก่การปลูกในประเทศไทย แถมเลี้ยงง่าย ไม่ต้องใส่ใจมากมายก็เติบโตได้ดี ถ้าใครอยากปลูกก็ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่คุณต้องรู้อีกดังต่อไปนี้
ลักษณะทางพฤกษาศาสตร์
ลำต้น : ต้นนีออนเป็นต้นไม้ทรงพุ่ม มีความสูงราว ๆ 4 เมตรเมื่อโตเต็มวัย ลำต้นของเขาจะหนา เนื้อไม้อ่อน มีเส้นรอบวงราว ๆ 10-15 เซนติเมตร แตกกิ่งออกรอบต้น ผิวเปลือกไม้สีน้ำตาลอมเทา แตกออกเป็นร่องตื้นแต่เห็นได้ชัด
ใบ : สำหรับใบจะเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ออกเรียงสลับกันตั้งฉาก รูปไข่ โคนสอบแคบ ปลายใบมน ขอบใบเรียบแต่มีการบิดตัวโค้งคล้ายการบิดริบบิ้น ซึ่งแตกต่างกันออกไปในแต่ละใบ ผิวใบและเนื้อใบของเขาเป็นผิวกำมะหยี่ มีขนบนใบหนานุ่ม ใบอ่อนสีเขียวแกมขาวและเทา ใบแก่มีสีเข้มกว่า แต่โดยรวมเป็นสีสว่าง ความกว้างของใบขนาด 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 2-3 เซนติเมตร โดยประมาณ
ดอก : สิ่งที่หลายคนรอคอยนั่นก็คือ “ดอกนีออน” ถึงแม้ว่าจะมีให้เห็นตลอดทั้งปีแต่หากอายุต้นไม่ถึงเวลา เขาจะไม่มาให้เห็นอย่างแน่นอน ต้องรอกันแรมปีหลังจากซื้อต้นเล็ก ๆ มาปลูก เขาออกดอกแบบดอกเดี่ยวตามซอกใบ กลีบดอก เรียงต่อกันเป็นหลอด มีกลีบเลี้ยง เกสรตัวผู้ 1 เกสรตัวเมีย ดอกไม้สีม่วงอ่อนไปจนถึงเข้มบานพร้อมกันทั้งต้น ออกดอกทั้งปี แต่จะมีกลิ่นเหม็นหน่อย ๆ
การขยายพันธุ์
สำหรับการขยายพันธุ์นั้น แน่นอนว่าสามารถทำได้โดยการเพาะเมล็ด แต่ก็ไม่ค่อยเป็นที่นิยมถึงจะมีข้อดีแต่ก็เต็มไปด้วยข้อเสีย ดังนั้นคนเล่นต้นไม้หรือเกษตรกรส่วนใหญ่จึงนิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีปักชำ จะให้ผลผลิตที่รวดเร็ว และมีอัตราการรอดสูงกว่ามาก
การปักชำ
ในการปักชำต้นนีออนนั้นเราสามารถทำได้ตลอดทั้งปี แต่จะตัดส่วนไหนมาปักชำจะต้องสังเกตจากฤดูกาล ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยดังนี้
– หลังจากที่ดอกรุ่นสุดท้ายของ “ฤดูร้อน” หมดไป ให้ตัดที่ไม้เนื้ออ่อน (ขนาด 10 เซนติเมตร)
– หากต้องการปักชำในช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาว จะต้องตัดบริเวณที่ไม้เนื้อแข็ง (ขนาด 10 เซนติเมตร)
เมื่อได้กิ่งที่ดีมาแล้ว ให้เรานำมาจุ่มในฮอร์โมนเร่งราก จากนั้นนำมาปักลงบนดินร่วนผสมทราย หรือจะผสมก้อนกรวดเข้าไปด้วยก็ได้เช่นกัน ตามด้วยการโรยผงกันราลงไปที่หน้าดิน หมั่นรดน้ำบ่อย ๆ จนกว่ารากจะงอก ซึ่งอาจใช้ระยะเวลาประมาณ 3 – 4 สัปดาห์
การปลูก / ดูแล
เมื่อเราได้ต้นจากการปักชำแล้ว ก็สามารถย้ายเขาออกมาปลูกด้านนอกได้ ซึ่งอาจปลูกลงในกระถางที่เหมาะสม หรือจะปลูกลงพื้นเลยก็ได้แต่ต้องเลือกให้ดินระบายน้ำได้ดี พื้นที่อยู่กลางแจ้ง เนื่องจากธรรมชาติของเขาเคยอยู่ในทะเลทราย ก็จะชื่นชอบอากาศร้อนจัดเป็นพิเศษ หรือถ้าหากหาบริเวณที่มีแดดจัดไม่ได้ก็พยายามให้เขาถูกแสงช่วงบ่ายให้มากที่สุด
เดิมทีเจ้าไม้พุ่มนี้เขาชื่นชอบความแล้ง ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องรดน้ำมาก ห้ามพะว้าพะวังเกี่ยวกับการรดน้ำต้นไม้เด็ดขาด ควรให้น้ำ 3 วัน / 1 ครั้ง หรือสัปดาห์ละครั้งเขาก็ยังทนไหว การจะเลี้ยงดูเขาให้โตไว ออกดอกได้ต้องให้สภาพแวดล้อมตรงกับถิ่นกำเนิดเขามากที่สุด วิธีการข้างต้นจะช่วยให้คุณดูแลต้นไม้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
วิธีการบำรุงต้นไม้จะให้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกไปเป็นตัวช่วยอีกหนึ่งแรงก็ได้เช่นกัน ข้อควรระวังก็คือ ห้ามใส่กาบมะพร้าวลงไปในดินทั้งในขั้นตอนการปลูกและเตรียมดิน เพราะมันมีคุณสมบัติในการโอบอุ้มน้ำ จะทำให้ดินชื้นนาน ไม่เหมาะกับต้นไม้ต้นนี้อย่างแน่นอน
และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ต้นนีออน” ที่เราตั้งใจรวบรวมมาฝากทุกท่าน เป็นเกร็ดความรู้เล็กน้อยที่เหมาะสำหรับคนต้องการปลูกสิ่งสวยงามไว้ดูเล่น บอกเลยว่าต้นไม้ต้นนี้เหมาะสำหรับคนขี้เกียจอย่างเรามาก คนทำงาน นักศึกษา ไม่มีเวลาดูแลก็ปลูกได้ ดูแลไม่ยุ่งยากแน่นอน สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้ได้ที่ Plantlover.net
