เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นหน้าค่าตาของน้อง “แคคตัสหูกระต่าย” หรือ “แคคตัสหูมิกกี้เมาส์” กันเป็นอย่างดี เพราะอาจจะเคยเห็นตามสื่อกันมาบ้างแล้ว หลายบ้านนิยมเลี้ยงเนื่องจากรูปทรงของเขาค่อนข้างน่ารัก โดนใจสายคิวท์ เหมาะแก่การนั่งมองเพื่อเพิ่มพลังในยามรู้สึกเหนื่อยล้า ถ้าคุณคือคนที่กำลังตามหาข้อมูลเกี่ยวกับแคคตัสต้นนี้ก็มาถูกทางแล้วล่ะ เพราะ Plantlover ได้ทำการรีเสิร์ชมาให้เป็นที่เรียบร้อย!!
ความน่าสนใจของ “แคคตัสหูกระต่าย” กระบองเพชรต้นเล็ก น่ารักโดนใจสายคิวท์
“แคคตัสหูกระต่าย” นั้นจัดอยู่ในตระกูล Opuntia ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปวงกลม แบน มีหนามอยู่รอบ ๆ ซึ่งตุ่มหนามของเจ้ากระบองเพชรหูกระต่ายนั้นมีหลากหลายสี ทั้งส้ม เหลือง และขาว ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
สำหรับแต่ละสายพันธุ์ของกระบองเพชรหูกระต่ายมีดังต่อไปนี้
– Opuntia microdasys : Bunny Ears (หูกระต่ายเหลือง) เป็นที่นิยมโดยทั่วไป มีหนามเหลืองรอบทั้งต้น ดูคลีนมากที่สุด มีชื่อไทยว่า เสมาทอง
– Opuntia microdasys Subsp.rufida :Cinnamon Bunny Bunny Ears (หูกระต่ายส้ม) ลักษณะของหนามรอบตัวเขาจะเป็นสีส้มหรือแดง มีความปุกปุยปานกลาง
– Opuntia microdasys Var.albispina :Angel Wing (หูกระต่ายขาว) หนามของกระบองเพชรเป็นสีขาว มีขนหนา ปุกปุยเหมือนสัตว์เลี้ยง
การขยายพันธุ์ของกระบองเพชรหูกระต่ายหรือมิกกี้เมาส์นั้น ดูง่ายดายแต่ก็ต้องใช้ความประณีตและใจเย็นมาก ๆ สามารถทำได้โดยการเด็ดหน่อออก หลังจากนั้นผึ่งแผลของเขาให้แห้งสักหน่อย หากต้องการความรวดเร็วแนะนำให้ทายาเร่งรากลงไปบนแผลด้วย จากนั้นปักชำลงในดินสำหรับปลูกแคคตัสโดยเฉพาะ รดน้ำในระหว่างที่รอรากเขางอกให้รดแค่พอชุ่ม
เมื่อกระบองเพชรหูกระต่ายของเราเติบโต ต้องดูแลและใส่ใจเขาให้ดี รดน้ำเมื่อดินของเขาแห้งสักสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็เพียงพอ นอกจากนี้แคคตัสก็ควรจะได้รับแสงในปริมาณที่พอเหมาะ นำวางไว้ในบริเวณที่แดดส่องยามเช้าและมีร่มยามบ่าย หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดร้อนจัดเพราะอาจทำให้เขายืนต้นตายได้
ข้อแนะนำสำหรับคนที่ชื่นชอบหูกระต่ายเพียง 1 คู่ คุณจะต้องเด็ดหน่อที่แตกออกทิ้งหรือนำไปเพาะชำใหม่ แต่หากชื่นชอบให้เขาแตกหน่อออกไปเรื่อยจนดูใหญ่โตก็ไม่จำเป็นจะต้องกำจัดหน่อทิ้งแต่อย่างใด
และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับแคคตัสหูกระต่ายในเบื้องต้นที่เราได้นำมาฝากเพื่อน ๆ ใครอยากเลี้ยงพันธุ์ไหนอย่าลืมลองไปส่องน้องเขาดูที่ร้านต้นไม้จะได้แน่ใจว่าชอบจริงหรือไม่ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังสนใจอยากเลี้ยงแคคตัสนะคะ