สาหร่ายพวงองุ่น เจ้าพืชทะเลรูปร่างหน้าตาคล้ายกับองุ่นไข่ปลา ขนาดเล็กจิ๋ว ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยรสชาติที่แปลกใหม่ประกอบกับกระแสในโลกออนไลน์ จึงทำให้หลายคนสนใจอยากหันมาปลูกพืชชนิดนี้เพื่อสร้างรายได้ เพราะปลูกและดูแลไม่ยากจนเกินไป และต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณต้องรู้เอาไว้ก่อนลงทุน
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับสาหร่ายพวงองุ่น และวิธีปลูกสาหร่าย สร้างรายได้ กำไรงาม!!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Caulerpa lentillifera
ชื่อวงศ์ : Caulerpaceae (วงศ์สาหร่าย)
ชื่อภาษาอังกฤษ : Sea Grapes หรือ Green Caviar
สาหร่ายพวงองุ่น เป็นหนึ่งในสาหร่ายกินได้ที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติในน้ำทะเล มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเขตร้อนทั้งหลาย รวมถึงประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศกึ่งร้อน อย่างเช่น ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ญี่ปุ่น และประเทศไทย มักพบได้ทั้งในส่วนของอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ใครอยากติดต่อแหล่งซื้อขาย ฟาร์มสาหร่ายส่วนใหญ่มักพบเห็นได้ทั่วไปตามจังหวัดเพชรบุรี ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ตามธรรมชาติ เราก็สามารถนำสาหร่ายพวงองุ่นมาปลูกเพื่อจำหน่ายได้เช่นกัน แต่ต้องใช้น้ำทะเลในการเลี้ยงเท่านั้น
เจ้าสาหร่ายทะเลชนิดนี้นำไปทำอาหารได้หลากหลาย เนื้อสัมผัสกรุบกรอบ เม็ดเล็ก ๆ แตกในปากเกิดเป็นเสียง กินแล้วสนุก มีรสชาติเค็ม หากกินเปล่า ๆ อาจจะรู้สึกว่าไม่อร่อยดังใจหวัง ควรตัดด้วยรสชาติอื่นหรือทานคู่น้ำจิ้มอย่างเช่น น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มเมี่ยงปลา เน้นหวานหน่อย หรือจะทานสาหร่ายพวงองุ่นเป็นเครื่องเคียงกับยำ ส้มตำ ลาบ ก็จัดว่าเด็ด อร่อยไม่เบา แนะนำลองทานกับแกงส้ม เมนูแนะนำโดยชาวเพชรบุรี จะได้สัมผัสและรสชาติที่แปลกใหม่เป็นอย่างมาก
ข้อมูลทางโภชนาการ
สาหร่ายพวงองุ่น จัดเป็นพืชน้ำที่มีประโยชน์สูง อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย โดยในสัดส่วนสาหร่าย 100 กรัมจะให้พลังงาน 284 กิโลแคลอรี มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินอี วิตามินซี วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 ไนอาซิน ไทอามิน ไรโบพลาวิน มีประโยชน์ต่อร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นหวัดบ่อย ช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันหัวใจล้มเหลว และถึงแม้ว่าจะเป็นพืชที่มีประโยชน์ ก็ยังให้โทษหากรับประทานแบบสุ่มสี่สุ่มห้า เนื่องจากสาหร่ายนั้นมีสาร Caulerpicin ใช้เพื่อป้องกันตัวเองจากสัตว์ทะเล พิษนี้จะส่งผลต่อมนุษย์เรื่องการนอนหลับ ทำให้เวียนหัว คลื่นไส้ ตัวสั่น อาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เช่นเดียวกัน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
สาหร่ายชนิดนี้จะมีท่อติดต่อกัน และรากฝอยก็ทำหน้าที่ยึดเกาะหรือท่อแตกแขนงออกไปคล้ายกับไหล มีรามูลัสทำหน้าที่สังเคราะห์แสงเช่นเดียวกับใบ ส่วนทัลลัสมีขนาดใหญ่เล็กแตกต่างกันออกไป เมื่อมองด้วยตาเปล่าจะเห็นว่าเขามีลักษณะเป็นพวงเช่นเดียวกับองุ่น
การขยายพันธุ์ / ปลูกสาหร่ายพวงองุ่น
การขยายพันธุ์สาหร่าย ทำได้โดยการเลือกเอาต้นแก่ของเขาไปโยนลงในน้ำทะเล ง่าย ๆ ใช้เวลาเพียงไม่กี่สิบวันสาหร่ายก็จะแตกต้นออกจนเต็มบ่อ และสำหรับวิธีการปลูก เพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในประเทศไทยสามารถแยกย่อยออกได้เป็น 3 วิธี ดังต่อไปนี้
1.เลี้ยงสาหร่ายในบ่อดิน
เป็นวิธีเลี้ยงสาหร่ายที่ได้รับความนิยมในภาคกลางหรือจากฝั่งทะเลอ่าวไทย ลักษณะคือต้องมีพื้นที่การเกษตรกว้าง ขุดบ่อ และสูบน้ำทะเลเข้ามาไว้ในบ่อ แต่น้ำจะต้องมีค่าความเค็มไม่ต่ำกว่า 25 ppt. และไม่เกิน 30 ppt. เป็นบ่อที่อยู่กลางแจ้ง ได้รับแสงแดดอย่างทั่วถึงและเพียงพอ และต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกสัปดาห์ จะทำให้ได้สาหร่ายพวงองุ่นที่คุณภาพสูง ราคาดี แต่ดูแลยาก
2.เลี้ยงสาหร่ายในกระชัง
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะเกษตรกรฝั่งทะเลอันดามัน ลักษณะก็คือจะใช้ตาข่าย อวน หรือกระชังมาเป็นตัวให้สาหร่ายยึดเกาะเอาไว้ สามารถเลี้ยงในทะเลได้เลย ข้อดีก็คือไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำให้ยุ่งยาก เพียงแต่ต้องคอยกำจัดสาหร่ายชนิดอื่น ๆ หรือสัตว์น้ำที่เข้ามาในกระชังอยู่บ่อยครั้ง ผลผลิตของสาหร่ายอาจด้อยลงไป และมีกลิ่นคาวเนื่องจากไม่สามารถควบคุมระดับความเค็มของน้ำทะเลได้
3.เลี้ยงในบ่อซีเมนต์ ถังไฟเบอร์ และภาชนะอื่น ๆ
การเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นด้วยวิธีนี้ เหมาะสำหรับผู้มีทุนทรัพย์ เนื่องจากต้องสร้างโรงเรือนที่มีความเหมาะสมแก่การเพาะปลูกเอง รวมถึงลงทุนในเรื่องของภาชนะ ทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ สาหร่ายไม่มีกลิ่นคาว ปนเปื้อนน้อย ปลูกได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากสามารถควบคุมได้ทั้งเรื่องระดับความเค็มของน้ำ แสงแดด รวมถึงอุณหภูมิ แต่จะว่าไปก็มีข้อเสีย เนื่องจากการเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ไม่เป็นธรรมชาติ อาจทำให้สาหร่ายมีขนาดที่สั้นกว่าปกติ และจำหน่ายได้ในราคาต่ำกว่าการเพาะเลี้ยงในแบบอื่น
ราคาขาย
หากเพื่อน ๆ ต้องการปลูกสาหร่ายขาย ก็จำเป็นจะต้องศึกษาในเรื่องของตลาดให้ดี เนื่องจากมีความไม่แน่นอนสูง ประกอบกับการลงทุนที่สูงด้วยเช่นกัน ซึ่งในปี 2023 นี้ราคาของเขาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 150-230 บาท ขึ้นอยู่กับไซส์ของสาหร่ายอีกทีหนึ่ง
และนี่ก็คือเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับสาหร่ายพวงองุ่นที่เราตั้งใจรวบรวมมาฝากทุกคน เป็นอย่างไรกันบ้าง เห็นกันแล้วใช่ไหมคะว่าการจะเลี้ยงดูสาหร่ายแต่ละต้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะสถานที่ปลูก หากเราอยู่ไกลจากทะเลก็กลายเป็นเรื่องยากไปเลยทันที ส่วนใครมีพื้นที่และสภาพแวดล้อมเหมาะสม แนะนำให้ลองปลูกในถังซีเมนต์ในปริมาณน้อยเพื่อเก็บความรู้กันก่อนจะดีกว่า สุดท้ายนี้ก็ขอฝากไว้ว่า การลงทุนมีความเสี่ยง อย่าลืมคิดอย่างรอบคอบและละเอียดถี่ถ้วนก่อนทำธุรกิจทุกครั้งนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net