“กะหล่ำ” เรียกได้ว่าเป็นผักประจำบ้านที่หลายคนมักซื้อติดตู้เย็นเอาไว้ และถ้าหากคุณอยู่ในวงการปลูกผักมาสักพัก ก็คงจะพอรู้จักกับเจ้ากะหล่ำดาว พืชหน้าตาแปลก ออกหัวข้างลำต้น รสชาติต่างจากกะหล่ำปกติแถมหาซื้อยาก ใครอยากปลูกวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับเจ้าผักดังกล่าวให้มากขึ้น
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติมได้ที่นี่
รู้จักกับกะหล่ำดาว กะหล่ำปลีหัวเล็ก ปลูกได้ในหน้าหนาว!!
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Brassica oleracea var. gemmifera
ชื่อวงศ์ : Cruciferae (วงศ์ผักกาด)
ชื่อภาษาอังกฤษ : Brussels Sprout
ชื่อไทยอื่น ๆ : กะหล่ำหัวลำต้น (ภาคเหนือ), กะหล่ำปลีพวง
กะหล่ำดาว จัดเป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับบรอกโคลี กะหล่ำดอก บ๊อกฉ่อย รวมไปถึงผักเคล ว่ากันว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากทางแถบเมดิเตอร์เรเนียน ตะวันตกเฉียงใต้ และภาคเหนือของทวีปยุโรป ก่อนกระจายตัวไปยังประเทศอื่น ๆ ในไทยนิยมปลูกกันบริเวณภาคเหนือในช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาว เป็นผักใบเขียวที่สามารถนำมารังสรรค์เมนูอาหารได้หลากหลาย เนื้อสัมผัสกรอบ รสหวาน คล้ายกับกะหล่ำทั่วไป แต่จะมีความติดขมและเผ็ดปลายลิ้นเล็กน้อย อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ
ข้อมูลทางโภชนาการเบื้องต้น
กะหล่ำดาว เป็นผักแคลอรีต่ำ จึงค่อนข้างเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมอาหาร โดยในปริมาณ 100 กรัมจะให้พลังงานอยู่ที่ประมาณ 43 กิโลแคลอรี นอกจากนี้ก็ยังมีคาร์โบไฮเดรต แคลเซียม โพแทสเซียม เบตาแคโรทีน โปรตีน โฟเลต วิตามินเอ วิตามินเค วิตามินซี มีวิตามินอี มีวิตามินบี1 / บี2 / บี3 / บี6 ช่วยในเรื่องการบำรุงผิวพรรณ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และอีกมากมาย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : ผักชนิดนี้มีลำต้นกลม ผิวสีเขียว เรียบ มีข้อสั้น ๆ ตามลำต้น ความสูงประมาณ 80-120 เซนติเมตร
ใบ : กะหล่ำดาวเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ทรงกลม กว้าง ใหญ่ ขอบใบเว้า ก้านใบยาวออกเรียงสลับรอบลำต้น
หัว : หัวกะหล่ำชนิดนี้จะออกเป็นปุ่มปมตามลำต้น จากซอกใบ ลักษณะเป็นปลีกลม เล็ก ซ้อนกันแน่นหลายชั้น เบียดเสียดกันเต็มลำต้น
ดอก : ดอกของเขาออกเป็นก้านช่อใหญ่ยาว ก้านสั้น เกิดขึ้นที่ส่วนยอดของลำต้น ดอกย่อยมีสีเหลือง
กะหล่ำดาว ปลูกฤดูไหน
กะหล่ำชนิดนี้เป็นผักที่ชื่นชอบอากาศเย็น เขาจะเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิประมาณ 15-22 องศาเซลเซียส ดังนั้นในเมืองร้อนอย่างไทยเราก็มักจะปลูกกันในฤดูหนาวเท่านั้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือเป็นหลัก เฉกเช่นเดียวกันกับพืชผักเมืองหนาวพันธุ์อื่น ๆ หากปลูกในช่วงที่อากาศร้อนจะทำให้ต้นแคระแกร็น เนื้อเหนียว ไม่กรอบเท่าที่ควร
สายพันธุ์แนะนำ
– พันธุ์ต้นเตี้ย ลำต้นของเขาจะมีความสูงไม่เกิน 50 เซนติเมตร มีอยู่สองสายพันธุ์ที่นิยมปลูกในประเทศไทยได้แก่ Katskill และ Long Island Improved อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 90 วัน
– พันธุ์ต้นสูง สายพันธุ์ยอดนิยมที่เราจะเห็นกันอยู่หลัก ๆ ก็อย่างเช่น Cambridge ซึ่งมาจากประเทศอังกฤษ และสายพันธุ์ Breda ที่มาจากฮอลแลนด์ มักปลูกในพื้นที่หนาว ลำต้นสูงตั้งแต่ 50-100 เซนติเมตรโดยประมาณ
– พันธุ์ลูกผสม จะเก็บเกี่ยวได้เร็ว อย่างเช่นสายพันธุ์ Jade Cross Hybrid และ F1-hybrid Green
การขยายพันธุ์
กะหล่ำดาวสามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ส่วนใหญ่มักใช้วิธีการเพาะเมล็ดเป็นหลัก ส่วนสายพันธุ์ก็สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม ถ้าใครอยากใช้เวลาในการปลูกรวดเร็วหน่อยก็ลองใช้พันธุ์ต้นเตี้ย จะให้ผลผลิตในระยะเวลาสั้นกว่าพันธุ์ต้นสูง ถ้าพร้อมแล้วเราไปทำความรู้จักกับวิธีการเพาะเมล็ดกะหล่ำดาวกันเลยดีกว่า
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1.เมล็ดพันธุ์
2.พีทมอส
3.ถาดเพาะ
4.กระถางปลูกหรือแปลงปลูก
5.ดินที่ผสมอินทรียวัตถุเยอะ
ขั้นตอนการเพาะเมล็ด / ปลูก
1.นำพีทมอสแช่น้ำทิ้งเอาไว้ 1 คืนมาใส่ลงในถาดเพาะ
2.หยอดหรือโรยเมล็ดกะหล่ำลงไปในพีทมอส รดน้ำเล็กน้อยแล้วทิ้งเขาเอาไว้ในพื้นที่ร่มกึ่งแดดอย่างเช่น ใต้สแลน สักประมาณ 15-20 วัน ต้นกล้าก็จะเริ่มงอกขึ้นมา จนพร้อมนำไปแยกปลูกแล้วล่ะ
3.การปลูกกล้ากะหล่ำดาว สามารถทำได้ในกระถางและแปลงปลูก เจ้าต้นนี้ชื่นชอบดินที่มีอินทรียวัตถุและไนโตรเจนสูง แนะนำให้ใช้ปุ๋ยคอกรองหลุมก่อนปลูก จะช่วยให้ผักเจริญเติบโตได้ดีมากยิ่งขึ้น
3.เมื่อปลูกผักแล้ว เราจำเป็นต้องพรวนดินอยู่บ่อยครั้ง หากโดนแสงแดดไม่มากพอต้นจะยืด ต้องแก้ปัญหาโดยการนำดินขึ้นมาถมลำต้นให้สูงตาม
4.การดูแลกะหล่ำดาวไม่ยุ่งยาก เมื่อปลูกในช่วงปลายฝนเขาจะค่อย ๆ เติบโตในช่วงฤดูหนาวพอดิบพอดี รดน้ำเพียงวันละ 1 ครั้ง ก็เป็นอันเพียงพอ
5.ส่วนอายุเก็บเกี่ยวของเขาจะอยู่ที่ราว ๆ 60 – 70 วันหลังปลูกลงดิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วย
ราคาขายโดยประมาณ
สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากปลูกผักขาย แอบกระซิบเลยว่าเจ้าต้นนี้ทำกำไรงามแน่นอน ราคาอยู่ที่ราว ๆ กิโลกรัมละ 150-200 บาท บางสายพันธุ์ราคาพุ่งไปถึงกิโลกรัมละ 700 บาท แต่ก็แลกมาด้วยความยากลำบากในการปลูกเช่นกัน
และนี่ก็คือเกร็ดความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกะหล่ำดาว ซึ่งเราอยากนำมาฝากเพื่อน ๆ ที่กำลังสนใจด้านการเกษตร อยากลงทุนปลูกผักสวนครัวเอาไว้กินเอง หรือสร้างรายได้เสริม รายได้หลัก ยิ่งราคาขายแพงเท่าไร ก็ย่อมแลกมาด้วยความลำบากในการเพาะปลูก ดูแล ประกอบกับสภาพภูมิอากาศ แนะนำให้ลองนำเมล็ดมาปลูกในกระถางเพื่อฝึกความชำนาญกันดูก่อน สุดท้ายนี้เราหวังอย่างยิ่งว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ
ติดตามเรื่องราวอื่น ๆ เกี่ยวกับต้นไม้และพืชผักได้ที่ Plantlover.net